จากข่าวในสองสามวันนี้คือ
- ประกาศจาก US FDA - Import Alert 16-74 (Report)
- สำหรับเรื่องการแบนน้ำปลาจากไทยนั้น เนื่องจาก US FDA มีความกังวลในการที่ตรวจพบน้ำปลาซึ่งเกิดจากการหมักจากปลาที่ไม่เอาไส้ปลาออก (uneviscerated) นั้นจะเป็นแหล่งของเชื้อ Clostridium botulinum ซึ่งอาจะเป็นสาเหตุให้เกิดอาการเจ็บป่วยและเสียชีวิตได้ แต่ในปี 2560 ไทยได้เก็บตัวอย่างน้ำปลาส่งตรวจ 48 ตัวอย่าง ก็ไม่พบเชื้อหรือท็อกซินจากเชื้อดังกล่าว
- ด่วน! อเมริกา สั่งแบน น้ำปลาไทย ร้านอาหารไทยอ่วม หันไปใช้เกลือ (ข่าวสด)
- สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ได้ประกาศห้ามนำเข้าน้ำปลาจากไทยเนื่องจากต้องการให้ไทยตรวจสอบพิสูจน์สารปนเปื้อนจากการหมักน้ำปลาว่าไม่มีส่วนผสมของสารก่อมะเร็ง เพราะการหมักน้ำปลาจะใช้เป็นปลาตัวเล็กจึงไม่สามารถชำแหละเอาไส้ปลาออกได้
- รมต.ต่างประเทศ ตอบแล้ว! หลังอเมริกา สั่งแบนน้ำปลาไทย จนต้องหันไปใช้เกลือ! (ข่าวสด)
- 'อย.-พาณิชย์' ยันน้ำปลาไทย ไม่ถูกอเมริกาแบน (กรุงเทพธุรกิจ)
- เลขา อย. นพ.พูลลาภ “กรณีที่มีการระบุว่ามีการตรวจพบสารก่อมะเร็งในน้ำปลาไทยนั้น ข้อเท็จจริงคือมีข้อมูลวิชาการระบุว่าฮีสตามีนอาจก่อมะเร็งได้ แต่จะต้องได้รับเข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่มากเหมือนการดื่มเป็นเครื่องดื่ม ซึ่งขณะนี้อย.ไทยยังไม่มีข้อมูลว่าน้ำปลาไทยจะก่อมะเร็ง เนื่องจากในน้ำปลามีฮีสตามีนอยู่ในปริมาณที่น้อยมากๆและไม่เคยมีรายงานว่าเกิดมะเร็งจากการกินน้ำปลา”
นพ. พูลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวเพิ่มเติมว่า จากกรณีมีข่าว U.S. FDA ออกประกาศห้ามนำเข้าน้ำปลาจากประเทศไทยนั้น อย. ขอชี้แจงเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคว่า กรณีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการเตรียมหลักฐานเพื่อให้เป็นไปตามข้อก้าหนดของทางสหรัฐอเมริกา ไม่ใช่ประเด็นการตรวจพบความไม่ปลอดภัยของน้ำปลาจากประเทศไทย อย่างไรก็ตาม อย. จะเชิญผู้ประกอบการตามที่เป็นข่าวมาหารือและชี แจงในประเด็นดังกล่าว พร้อมทั งเข้าตรวจสอบ
กระบวนการผลิตของโรงงานผลิตน้ำปลา และจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทำความเข้าใจกับ U.S. FDA เรื่องความปลอดภัยในกระบวนการผลิตน้ำปลาของประเทศไทยต่อไป
ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์อาหาร น้ำปลา ต้องมีมาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 203 พ.ศ.2543 (ปก.สธ.203)
No comments:
Post a Comment